รวมบทสวดมนต์ประจําวัน บทสวดมนต์ก่อนนอน ที่เดียวครบ

บทสวดมนต์

หลายๆคนคงเคยได้ยินมาว่า การสวดมนต์นั้นดีต่อตัวเองมากๆ ทั้งเรื่องสมาธิ ปัญญา และบุญ ไม่ว่าจะเป็นการใช้บทสวดมนต์ประจำวัน บทสวดมนต์เช้า บทสวดมนต์ก่อนนอน แผ่เมตตา ล้วนดีกับตัวเองทั้งนั้น บางคนที่อยากเริ่ม แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี

บทสวดมนต์ บทสวดมนต์ก่อนนอน

บทสวดมนต์ก่อนนอน นับเป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้พวกเราสุขสบายขึ้นได้ โดยที่ในวันแล้ววันเล่าพวกเราจะต้องเผชิญกับเรื่องราวมากมายก่ายกอง ทั้งยังเรื่องที่ทำให้ชีวิตสุข ไปจนกระทั่งเรื่องราวแย่ๆ ที่ทำให้ชีวิตวุ่นวาย เมื่อกลับถึงที่บ้านพวกเราต่างก็อยากได้เวลาพักผ่อน อยากนอนหลับสนิทเพื่อลืมเรื่องราวแย่ๆ

การท่องบทสวดมนต์ก่อนนอนจะช่วยทำให้พวกเรามีสมาธิ จิตใจสงบ แจ่มใส ทั้งยังยังเป็นการแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้ทำมาในทุกวันให้กับเพื่อนมนุษย์ หรือสรรพสัตว์ต่างๆบนโลก เมื่อพวกเรามีสมาธิ จิตใจเย็นลง จะมีผลให้พวกเรานอนสบาย ตื่นยามเช้ามาจะรู้สึกผ่องใส พร้อมที่จะสู้ไปกับงาน หรือการศึกษาเล่าเรียนได้อย่างสุขสบาย

ซึ่งใน บทสวดมนต์ก่อนนอน นั้นไม่ว่าจะเป็นบทใดก็ตามล้วนแต่มีอานุภาในตนเองอยู่ล้นหลาม ทั้งยังยังแอบแฝงไปด้วยข้อคิดเตือนใจดีๆที่จะเป็นหลักนำทางให้พวกเราดำรงชีวิตในแต่ละวันไปได้อย่างสบาย ด้วยเหตุนี้ การท่องมนต์ก่อนนอนถือได้ว่าเรื่องที่ดี ยิ่งปฏิบัติทุกวี่ทุกวันก็จะมีผลที่ดีในเรื่องของสมาธิ สติปัญญา ทำให้ดวงใจของพวกเราสามารถตรึกตรองเรื่องราวต่างๆได้อย่างรอบคอบ ถ้วนถี่ รวมทั้งใจเย็นมากยิ่งขึ้น

วันนี้เรามีบทสวดมนต์ที่ถูกต้อง ทั้งบทสวดมนต์เช้า บทสวดมนต์ก่อนนอน บทแผ่เมตตา ที่รวมมาไว้แล้ว สามารถทำตามได้ทุกวันเลยมาไว้ที่เดียว เข้ามาดูกันเลยครับ

โดยบทสวดมนต์ประจำวันจะเริ่มสวดตั้งแต่บท บูชาพระรัตนตรัย ลงมาจนถึงกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร

บูชาพระรัตนตรัย
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ

บทกราบพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวาพุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นมัสการพระรัตนตรัย

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สวด ๓ จบ)

ขอขมาพระรัตนตรัย

วันทามิ พุทธัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต, วันทามิ ธัมมัง,สัพพะเมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต, วันทามิ สังฆัง, สัพพะ เมโทสัง, ขะมะถะเม ภันเต

บทสวดมนต์ ไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ถวายพรพระ (อิติปิโสฯ)

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (พุทธคุณ)

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ
(อ่านว่า วิญญูฮีติ) (ธรรมคุณ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (สังฆคุณ)

พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)

พาหุงสะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ นาฬาคิริง คะชะวะรังอะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะ สุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง (อ่านว่า พรัมมัง) วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โยวาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะ เนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ

(* ถ้าสวดให้คนอื่น ให้เปลี่ยนจากคำว่า เม เป็น เต)

ชัยปริตร (มหากาฯ)

มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม* ชะยะมังคะลัง ฯชะยันโตโพธิยา มูเล สักยานัง นันทิ วัฑฒะโน เอวัง อะหัง วิชะโย โหมิ (ถ้าสวดให้คนอื่นเปลี่ยนเป็น ตะวัง วิชะโย โหหิ) ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะ ปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะ ติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏ ฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ (อ่านว่า พรัมมะ) จาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะ ทักขิณา นิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม*

สมาทานศีล 5

ปาณาติปาตา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อทินนาทานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

อธิษฐานรักษาศีล 5

ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานว่า ต่อแต่นี้ไปข้าพเจ้าจะขอรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ดังเดิม

บทสวดก่อนนอน ศีล 5

อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (กล่าว 3 จบ)

บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง

อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์
อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร
อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิด ฯ

คำอธิฐานอโหสิกรรม

ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำแก่ผู้ใดในชาติใด ๆ ก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมและนายเวร จงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อไปเลยแม้แต่กรรมที่ใคร ๆ ทำแก่ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงษาคณาญาติและผู้อุปการะคุณของข้าพเจ้า มีความสุข ความเจริญปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญฯ

บทแผ่ส่วนกุศล

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า มีความสุข
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า มีความสุข
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง มีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ

กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร

ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศล จากการเจริญภาวนานี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ

สรุป รวม บทสวดมนต์ เช้า ก่อนนอน แผ่เมตตา

9. ผลบุญจากการสวดมนต์

  1. สวดมนต์เพื่อมอบให้เป็นพุทธบูชาเคราะห์ดีที่ได้กล่าวคำศักดิ์สิทธิ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำหนดไว้ บทสวดมนตร์พุทธมนต์นั้น มาจากพระปากของพระผู้เป็นเจ้าที่ได้ทรงสอนสาวกรวมทั้งมีการจำและก็ท่องสืบมา จนกระทั่งมีการเขียนบันทึกไว้ภายในพระไตรปิฎก คนที่ได้ได้โอกาสสวดมนต์ในชีวิต เป็นการเปล่งแสงคำศักดิ์สิทธิ์มอบเป็นพระพุทธ เป็นการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและก็ย่อมได้บุญกุศล
  2. ส่งผลดีต่อสภาพทางด้านร่างกาย ผู้ที่สวดมนต์บ่อยๆนั้น ด้านการแพทย์ยุคใหม่ยืนยันแล้วว่า การสวดมนต์นำไปสู่ความสำราญได้จริงในจิตใจ มีผลต่อร่างกายให้หลั่งสารความสบายออกมา ร่างกายก็จะแข็งแรง บริเวณใบหน้าผ่องใส คุณครูในโบราณกาลถึงปัจจุบันนี้รู้ถึงกลเม็ดลับสำคัญ ให้สังเกตว่าท่านจะแก่ยืนมากมาย และก็บรรพบุรุษของพวกเรานั้น ท่านสวดมนต์บ่อยๆอายุท่านก็เลยยืนยาว ไม่ราวกับคนภายในเดี๋ยวนี้ที่ห่างเหินการสวดมนต์มากมาย อายุก็เลยสั้น
  3. เป็นการบำเพ็ญภาวนาอย่างหนึ่ง ทำให้มีสมาธิจิตใจ แจ่มใส การสวดมนต์เป็นการสร้างสมาธิแนวทางการหนึ่ง เมื่อจิตที่มีสมาธิย่อมแจ่มใส มีกำลัง คิดอ่านแก้ปัญหาอะไรก็จะทำเป็นง่ายเพราะว่ามีสติสัมปชัญญะควบคุมอยู่
  4. เป็นที่โปรดโปรนของเหล่าเทพทวยเทพเทวดารวมทั้งดวงใจวิญญาณทั้งผอง หากแม้คนไหนกันแน่ไม่ว่าจะเป็นพระพรหมเทพเจ้า สรรพสัตว์ทั้งหลายแหล่ จิตใจวิญญาณทั้งหลายแหล่ เมื่อได้ยินบทสวดมนตร์นั้นจะเจอกับความเย็นสบาย ความทุกข์ลดลง ทำให้ชื่นชมยินดีผู้ที่สวดมนตร์ด้วย แล้วก็เมื่อยินก็จะช่วยคุ้มครองรักษาผู้ที่สวดมนตร์
  5. กำเนิดบุญจากการแผ่กุศล เมื่อสวดมนต์เสร็จสมบูรณ์ มีการแผ่ส่วนบุญแก่ตัวเองรวมทั้งเหล่าสรรพสัตว์ย่อมกำเนิดผลบุญบุญเกิดขึ้น
  6. ได้รับพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่สวดมนต์เสมอๆนั้นย่อมได้รับการแสดงความชื่นชมยินดีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสมอ เนื่องจากว่าเป็นผู้ผลิตบาปดีจากการสวดมนต์และก็แผ่กุศล
  7. สร้างมงคลต่อตัวเอง รวมทั้งครอบครัว ขจัดปัดเป่าภัยพิภัย โรคร้ายได้จริง ทุกบทสวดมนต์นั้นมาจากอักษรที่ศักดิ์สิทธิ์ มีอำนาจบันดาลใจให้สิ่งอวมงคลนั้นออกไปจากชีวิต และก็สร้างมงคลให้กับผู้ที่สวดมนตร์ ยิ่งสวดมนตร์มากมายก็จะมีมงคลเพิ่มมากขึ้น ทำอะไรก็เสร็จโดยง่าย
  8. สามารถแผ่บุญไปช่วยคนอื่นที่ลำบากได้ บทสวดมนต์ทุกบทนั้น สมารถยนต์แผ่บุญกุศลไปช่วยคนอื่นที่ตกระกำลำบากได้ทุกเรื่อง ยิ่งเป็นเชื้อสายเดียวกันจะยิ่งเร็วขึ้น เนื่องจากมีอีกทั้งบุญแล้วก็บาปผูกพันกันมา ผลบุญที่ดังที่กล่าวมาแล้วคงจะเพียงพอจะก่อให้ทุกคนรู้เรื่อง เรื่อง ผลบุญ หรือ คุณประโยชน์ที่จะรับจากการสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ ตลอดจนการแผ่กุศลอย่างดีเยี่ยมแล้วอย่างไรก็แล้วแต่นี่เป็นเพียงแต่คุณประโยชน์พื้นฐานเพียงแค่นั้นเรื่องจริงแล้วมีผลบุญที่กำลังจะได้รับทางอ้อมทางลึกอีกเพียบเลยกว่านี้นักแต่ว่าเป็น “ปัจจัตตัง” หรือทราบได้ส่วนตัวของแต่ละคนไป โปรดจดจำไว้เสมอว่า ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นจำต้องปฏิบัติเองถึงจะได้
  9. เป็นหลักฐานไปสู่การก่อนปฏิบัติวิปัสสนาการเข้าฌานชั้นสูงถัดไป เมื่อทุกคนรู้ถึงการที่จะจำเป็นต้องทำยังไงก่อนถึงจะเริ่มการสวดมนต์ ที่ครบสมบูรณ์ทุกสิ่งแล้ว ตั้งแต่นี้ต่อไปจะขอนำทุกคนเจอกับกรรมวิธีสวดมนตร์ให้ชีวิตดี สวดมนตร์ให้สุข สวดมนตร์ให้ร่ำรวย กันในขั้นตอนต่อไป

ทำได้ทั้งหมดนี้ สำหรับ 1 วันถือว่าดีมากเลยครับ สำหรับบทสวดมนต์ประจำวัน บทสวดมนต์ก่อนนอน และแผ่เมตตา ทำหมดคงกินเวลาราวๆ ครึ่งชั่วโมง ได้ครับ ดีกับตัวเองแน่นอน อย่าลืมทำบุญแผ่เมตตาด้วยนะครับ ขอให้ทุกคน ถ้าเกิดกลางคืนฝันดี อย่าลืมไปดูทำนายฝัน กันด้วยนะครับ

อ้างอิงจากหนังสือบทสวดมนต์